วัดวิชิตดิตถาราม ท่าชนะ |
สิบเอกวุฒิ เดิมทีเป็นข้าราชการทหาร ได้ไปรบที่สงครามเวียดนามได้บนบวชไว้ว่าถ้าปลอดภัยจากการไปสงครามจะมาบวช 1 พรรษา เมื่อกลับจากสงครามเวียดนาม เมื่อ พ.ศ. 2512 สิบเอกวุฒิก็ได้มาอุปสมบทที่วัดคอกช้างแห่งนี้ เห็นว่าบนหน้าผาใหญ่ด้านหลังวัดมีหินใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผา มีความมั่นคงแข็งแรงมาก น่าจะสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานที่นี่ ก็เลยใช้เงินส่วนตัว จำนวน 7,000 บาท(ในสมัยนั้น) กับความร่วมมือของชาวบ้านในพื้นที่ลงมือสร้างพระใหญ่
โดยมีความตั้งใจสร้างเป็นพระนาคปรก เพราะเป็นพระประจำวันเสาร์ วันเกิดของสิบเอกวุฒิเอง แต่ด้วยระยะเวลาที่พระวุฒิ(ในขณะนั้น)มีจำกัดในช่วงเวลาอุปสมบท เพียง 4 เดือน จึงสร้างได้แล้วเสร็จเฉพาะองค์พระ จึงได้เป็นเพียงองค์พระปางสมาธิเท่านั้น โดยองค์พระสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2513 หลังจากนั้นพระวุฒิก็ลาสิกขากลับไปเป็นทหารต่อ แต่ต่อมาอีกเพียง 1 ปี ชาวบ้านตำบลท่าชนะก็ไปขอให้สิบเอกวุฒิลาออกจากราชการทหารมาเป็นกำนันที่ตำบลท่าชนะ แต่ก็ไม่ได้มีการไปสร้างองค์พระให้แล้วเสร็จเป็นพระนาคปรกตามที่ตั้งใจไว้
จนมาถึงปี 2559 ผ่านมาอีกร่วม 46 ปี สิบเอกวุฒิหรือกำนันเคว็ดจึงได้ตั้งใจรวบรวมเงินส่วนตัวสร้างพระนาคปรกที่วัดคอกช้างให้แล้วเสร็จสมตามที่ตั้งใจไว้ แต่ครั้นเวลาเริ่มไปสร้างจริงๆ ปรากฏว่าช่างทุกคนที่ไปลงมือทำงานพากันป่วยไม่สบายจนทำงานไม่ได้กันทุกคน และสิบเอกวุฒิเองก็ได้ฝันมีคนมาบอกว่า คนที่จะสามารถสร้างนาคคลุมองค์พระใหญ่ได้ต้องเป็นพระเท่านั้น สืบหาแล้วไม่สามารถหาพระที่จะมาสร้างนาคบนองค์พระได้ เพราะต้องปีนทำงานบนผาสูง การทำงานค่อนข้างยากและอันตราย ด้วยความศรัทธา สิบเอกวุฒิจึงตัดสินใจบวชพระอีกครั้งทั้งที่ตนเองไม่มีความรู้ในงานปูนปั้นเลย แต่ก็สามารถลงมือสร้างพญานาคขนาดใหญ่ขึ้นคลุมองค์พระได้อย่างสวยงาม จนชาวบ้านศรัทธานำเงินทอดผ้าป่ามาช่วยสมทบทุน จนการก่อสร้างแล้วเสร็จ
เป็นเรื่องแปลกที่ระหว่างก่อสร้าง มีผู้ป่วยมีอาการปวดขารุนแรงรายหนึ่งอยู่ที่จังหวัดระนอง และไม่รู้จักอำเภอท่าชนะเลย ฝันว่าให้เดินทางมาไหว้พระนาคปรกใหญ่ที่ท่าชนะแล้วจะหาย ท่านก็ดั้นด้นเดินทางมาที่ท่าชนะแต่หาพระนาคปรกไม่เจอ เพราะขณะนั้นพระวุฒิกำลังเริ่มลงมือก่อสร้างพญานาคคลุมองค์พระ เมื่อผู้ป่วยรายนี้ไปสอบถามหาพระนาคปรกใหญ่หลายๆ วัดในอำเภอท่าชนะแต่ไม่เจอ ต่อมาทราบว่าพระวุฒิกำลังลงมือสร้างพระนาคปรก พอมาเห็นองค์พระ ผู้ป่วยท่านนี้ก็บอกเล่าความฝันพร้อมกับบอกพระวุฒิว่า ลักษณะองค์พระและสถานที่เหมือนในภาพฝันของเขาเลย จึงได้ตัดสินใจนุ่งขาวห่มขาวเดินตามพระวุฒิบิณฑบาตรตอนเช้า แล้วมาช่วยกันสร้างพญานาคกัน น่าแปลกที่ผู้ป่วยอาการปวดขารุนแรง แต่ต้องมาเดินขึ้นลงบันไดจำนวน 270 ขั้น วันละหลายรอบ เพื่อช่วยกันนำอุปกรณ์ไปสร้างพญานาคคลุมองค์พระ เป็นเวลา 15 วัน ปรากฏว่าอาการปวดขาของผู้ป่วยท่านนี้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่าถ้าใครที่ป่วย โดยเฉพาะอาการปวดขา ปวดเข่า สามารถมาขอพรจางองค์พระนาคปรกนี้แล้วจะหาย ซึ่งมีคนหายมาแล้วจริงๆ ที่ยืนยันตัวตนได้จำนวนหลายคน และระหว่างการก่อสร้างพญานาคขึ้นคลุมองค์พระปรากฏว่าไม่เคยมีอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยเกิดขึ้นกับคณะทำงานเลย ทั้งๆที่การทำงานค่อนข้างเสี่ยงและอันตรายสูง และที่สำคัญพระวุฒิผู้วร้างและปั้นพญานาคไม่มีความรู้ในการปั้นเลย สิบเอกวุฒิเล่าว่าในการทำงานเหมือนมีเทวดามาชักนำว่าต้องทำอย่างนั้นต้องปั้นอย่างนี้ และน่าแปลกมากๆ ที่ผลงานการปั้นสวยงามมากๆ ทั้งๆ ที่ผู้สร้างไม่มีความรู้เลย พอสร้างพญานาคคลุมองค์พระเสร็จสิบเอกวุฒิก็ลาสิกขาออกมา
โดยท่านเจ้าคุณฯ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี องค์พระมีพระนามว่า พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ ประธานารถบพิธ ท่าชนะมงคล มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 6 เมตร ประดิษฐ์ฐานอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 250 เมตร มีบันไดขึ้นมารวม 270 ขั้น
สิบเอกวุฒิ (กำนันเคว็ด) |
จึงขอเชิญท่านที่สนใจมาไหว้ พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ ประธานารถบพิธ ท่าชนะมงคล พระนาคปรกองค์ใหญ่ที่มีตำแหน่งประดิษฐานสูงที่สุดในโลก (เวลานี้) มาร่วมสักการะขอพรจากองค์พระ และรับแสงแรกแห่งรุ่งอรุณจากพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นเส้นขอบฟ้าขึ้นมาจากทะเลทางด้านทิศตะวัน ผ่านหาดสำเร็จเข้าสู่อำเภอท่าชนะ เพื่อความสำเร็จและชนะซึ่งอุปสรรคสิ่งขัดขวางทั้งปวง จากนั้นเราลงไปร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าแก่พระภิกษุสงฆ์ในวัดวิชิตดิตถารามเบื้องล่าง แล้วร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน ก่อนที่จะไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆ กันต่อไป
สนใจสอบถามรายละเอียดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ที่ ร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ โทร. 096-654-2329
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น